ข่าวที่ 147/2562 สศก. คาดปีหน้า ผลผลิตมันฝรั่ง กว่า 1.38 แสนตัน แจงโควตานำเข้าหัวพันธุ์มันฝรั่งปี 63

สศก. คาดปีหน้า ผลผลิตมันฝรั่ง กว่า 1.38 แสนตัน แจงโควตานำเข้าหัวพันธุ์มันฝรั่งปี 63
พร้อมกำหนดเกณฑ์ราคารับซื้อ มั่นใจ ไม่กระทบราคาขายเกษตรกร 
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการบริหารการนำเข้าหัวพันธุ์มันฝรั่ง และหัวมันฝรั่งสดเพื่อแปรรูป ภายใต้ความตกลง WTO ปี 2563 ว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการจัดการการผลิตและการตลาดกระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่ และมันฝรั่ง ครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562 ได้เห็นชอบการนำเข้าหัวพันธุ์มันฝรั่งพันธุ์โรงงาน ปี 2563 ครั้งที่ 1 ปริมาณรวม 5,208.75 ตันอัตราภาษีในโควตาร้อยละ 0 (อัตราภาษีนอกโควตาร้อยละ 125) โดยกำหนดให้การนำเข้ามีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2563 และจัดสรรให้บริษัททั้ง 3 ราย ได้แก่ บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด  จำนวน 4,347 ตัน  บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ฟู้ดส์ จำกัด จำนวน 850 ตัน และบริษัท ยูนิแชมป์ จำกัด จำนวน 11.75 ตัน
การนำเข้าหัวพันธุ์มันฝรั่ง กำหนดปีละ 3 ครั้ง เพื่อให้เกษตรกรปลูก คือ 1) ช่วงเม.ย. – ก.ค. 2) ช่วง ส.ค. – ต.ค. และ3) ช่วงพ.ย. – ม.ค. (ปีถัดไป) โดยผู้ที่มีความประสงค์ขอนำเข้าหัวพันธุ์มันฝรั่งต้องเป็นนิติบุคคล และต้องจัดทำหนังสือแจ้งความประสงค์ขอนำเข้ามายัง สศก. ภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งเอกสารการนำเข้าประกอบด้วย 1) หนังสือรับรองพื้นที่เพาะปลูก  2) ทะเบียนเกษตรกร 3) ข้อมูลปริมาณหัวพันธุ์ที่สอดคล้องกัน โดยมีเกษตรจังหวัดหรือสหกรณ์จังหวัดรับรอง  ส่วนในกรณีที่บริษัทนำเข้าหัวพันธุ์มันฝรั่ง เพื่อมาเพาะปลูกในพื้นที่ของตนเอง ให้บริษัททำหนังสือรับรองพื้นที่เพาะปลูกและข้อมูลปริมาณหัวพันธุ์ที่สอดคล้องกัน โดยมีเกษตรจังหวัดหรือสหกรณ์จังหวัดรับรองด้วย ทั้งนี้ ผู้นำเข้าจะต้องจำหน่ายหัวพันธุ์มันฝรั่งโรงงานให้แก่เกษตรกร ในราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 35.00 บาท 
สำหรับการบริหารการนำเข้าหัวมันฝรั่งสดเพื่อแปรรูป ปี 2563กำหนดอัตราภาษีในโควตาร้อยละ 27 (อัตราภาษีนอกโควตาร้อยละ 125) ปริมาณรวม 52,000 ตันกำหนดการนำเข้าในช่วงระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2563 โดยจัดสรรให้ บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ปริมาณ 44,750 ตัน บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ฟู้ดส์ จำกัด ปริมาณ 6,750 ตัน และบริษัท ยูนิแชมป์ จำกัด ปริมาณ 500 ตัน  โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้นำเข้าหรือผู้แทนผู้นำเข้าจะต้องมีการทำสัญญารับซื้อผลผลิตหัวมันฝรั่งสดเพื่อแปรรูปจากเกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งภายในประเทศ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบปริมาณในโควตาที่ขอขยายเพิ่มเติม อีกปริมาณ 6,400 ตัน โดยจัดสรรให้บริษัทเป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ปริมาณ 5,400 ตันบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ฟู้ดส์ จำกัดปริมาณ 1,000 ตัน ซึ่งสศก. จะนำเข้าคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์พิจารณา ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป ด้านราคารับซื้อ ผู้นำเข้าหรือผู้แทนผู้นำเข้าจะต้องรับซื้อผลผลิตหัวมันฝรั่งสดเพื่อแปรรูปจากเกษตรกร ในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 14.00 บาท ในช่วงฤดูฝน (ก.ค.-ธ.ค.) และในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 10.60 บาท ในช่วงฤดูแล้ง (ม.ค.-มิ.ย.)
สำหรับแนวทางการจัดการสินค้ามันฝรั่ง ในปี 2563 เน้นมาตรการกระจายผลผลิต ในช่วงที่ออกสู่ตลาดมาก อาทิ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ผ่านเครือข่ายสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ขอความร่วมมือไปยังห้างสรรพสินค้าและโมเดิร์นเทรด พร้อมตรวจสอบสต็อกของผู้ประกอบการเพื่อป้องกันการกักตุนและเก็งกำไร ขณะที่กรมศุลกากร จะดำเนินมาตรการในการปราบปรามการลักลอบการนำเข้าอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ สศก. คาดว่า ปี 2563 (ปีเพาะปลูก 2562/63) มันฝรั่งมีเนื้อที่เพาะปลูก รวมทั้งประเทศ 47,297 ไร่ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 4 ผลผลิตรวม 138,782 ตัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 8 โดยผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว เฉลี่ย2,943 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มขึ้น จากปีที่แล้ว 92 กิโลกรัมต่อไร่ หรือร้อยละ 3 โดยเนื้อที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทผู้รับซื้อมันฝรั่งมีแผนความต้องการและส่งเสริมให้ขยายการผลิตในปี 61-63 ซึ่งขอเพิ่มโควตานำเข้าหัวพันธุ์มันฝรั่งพันธุ์โรงงาน ส่งผลทำให้มีการขยายพื้นที่เพาะปลูก ประกอบกับสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโต ของมันฝรั่ง และบริษัทผู้รับซื้อมันฝรั่ง ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้หัวพันธุ์ที่ได้มาตรฐาน ผลผลิตได้ขนาดตามความต้องการ ภาพรวมผลผลิต รวมทั้งประเทศจึงเพิ่มขึ้น ดังนั้น ถึงแม้จะมีการขยายการผลิตและการนำเข้าเพิ่มขึ้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาที่เกษตรกรได้รับเนื่องจากมีการรับซื้อตามราคาขั้นต่ำที่คณะอนุกรรมการฯ กำหนดอยู่แล้ว
*******************************

แหล่งข้อมูล

ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์ / ข้อมูล : สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร