- หน้าแรก
- ข่าวจาก สศท.2/ท้องถิ่น
![](/assets/portals/5/fileups/zone2/images/big_banner/close-up-reporter-preparing-interview-1140-200.jpg)
ข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวจาก สศท.2/ท้องถิ่น
สศท.2 เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรฯ (คพจ.) จังหวัดพิษณุโลก ครั้งที่ 2/2565
วันพุธที่ 2 มีนาคม 2565 นายประเสริฐศักดิ์ แสงสัทธา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 2 (ผอ.สศท.2 พิษณุโลก) มอบหมายให้ นางธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์ ผู้อำนวยการส่วนสารสนเทศการเกษตร เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.)จังหวัดพิษณุโลก ครั้งที่ 2/2565 ณ ห้องประชุมสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก โดยมี นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานการประชุม และพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก เป็นเลขานุการคณะกรรมการฯ ระดับจังหวัด โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญดังนี้
เพื่อให้คณะกรรมการฯ รับทราบสถานการณ์ผลิตสินค้ามะม่วงน้ำดอกไม้จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่มีเนื้อที่ให้ผลมากถึง 50,579 ไร่ และผลผลิตเริ่มออกกระจุกตัวแล้วในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2565 โดยออกมากที่สุดในเดือนมีนาคม 48,586 ตัน และรับทราบสถานการณ์ราคามะม่วงน้ำดอกไม้เกรดส่งออกเฉลี่ย 70 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10 บาท/กิโลกรัม ส่วนเกรดคละเฉลี่ย 30 บาท/กิโลกรัม ลดลงจากปีที่ผ่านมา 5 บาท/กิโลกรัม ซึ่งคาดว่าในช่วงผลผลิตออกกระจุกตัวราคาจะปรับลดลง ซึ่งอาจทำให้เกษตรกรเดือดร้อน
มติที่ประชุม มอบหมายให้คณะอนุกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร ระดับอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามราคาสถานการณ์ราคาะม่วงน้ำดอกไม้ที่เกษตรกรขายได้ เป็นประจำทุกวัน โดยรายงานให้ฝ่ายเลขาฯ ทราบ ภายในเวลา 12.00 น. ของทุกวัน เริ่มรายงานครั้งแรกในวันที่ 7 มีนาคม 2565
เพื่อพิจารณาแนวทางและมาตรการหรือรณรงค์ไม่ตัดมะม่วงน้ำดอกไม้อ่อน (สุกไม่ได้คุณภาพตามเกณฑ์) จากปัญหาที่เกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อส่งออกช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่ง สศท.2 พิษณุโลก ได้นำเสนอรายงานภาวะแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรปี 2565 จังหวัดพิษณุโลก ที่มีมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง เป็นสินค้าเกษตรสำคัญในการข้บเคลื่อนGPPภาคเกษตร และนำเสนอผลการศึกษาด้านเศรษฐกิจสินค้าทางเลือก(FutureCrop) กรณีศึกษามะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง พิษณุโลก ให้ที่ประชุมรับทราบพอสังเขปดังนี้
จากข้อมูลปี 2563 วิถีตลาดของมะม่วงน้ำดอกไม้ของจังหวัดพิษณุโลกประมาณร้อยละ 60 จำหน่ายให้กับบริษัทคู่ค้าที่นำผลผลิตส่งออกตลาดยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฯลฯ ซึ่งผู้ส่งออกจะเลือกผลผลิตที่ผิวสวย ไม่มีตำหนิ แต่ไม่รับซื้อผลผลิตที่แก่จัด หรือเกือบสุก เพราะผลผลิตจะสุกงอมเสียหายระหว่างการขนส่งก่อนถึงตลาดปลายทาง อีกทั้งผู้บริโภคแถบยุโรปไม่คุ้นชินในการบริโภคมะม่วงสุกที่รสชาติหวานจัดมากนัก ในขณะที่ผลผลิตที่เหลือร้อยละ 40 จะมีพ่อค้า หรือผู้รวบรวมผลผลิตเข้ามาร้บซื้อจากเกษตรกร และนำไปแบ่งจำหน่ายให้บริษัทคู่ค้าประมาณร้อยละ 10 ที่เหลืออีกร้อยละ 30 จะกระจายจำหน่ายตลาดในประเทศ ซึ่งผู้บริโภคชาวไทยนิยมมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่แก่จัด เมื่อสุก รสชาติต้องหอมและหวานจัด
ดังนั้น สศท.2 จึงเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาขับเคลื่อนการแก้ปัญหา ที่มุ่งเน้นบริหารจัดการคุณภาพและปริมาณผลผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาดแต่ละประเภทที่ต้องการผลผลิตแตกต่างกัน ดังนี้
ควรขับเคลื่อนบริหารจัดการด้านการตลาด โดยอาศัยกลไกของคณะทำงานการประสานงานด้านการตลาดหรือหาแหล่งรับซื้อผลผลิต (Demand Side)ระดับจังหวัด ที่จัดตั้งโดยคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ระดับจังหวัด (อพก.) เมื่อปี 2562 และขอให้ฝ่ายเลขานุการคณะทำงาน Demand Side ฯ เชิญผู้ประกอบการที่รับซื้อผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้เกรดส่งออก เข้าร่วมประชุม เพื่อชี้แจงให้คณะทำงานฯ รับทราบถึงคุณภาพ และปริมาณความต้องการมะม่วงน้ำดอกไม้ของตลาดส่งออกที่แท้จริง ในปี 2565 ทั้งนี้ เพื่อบริหารจัดการผลผลิตได้ตรงตามความต้องการตลาดในช่วงเวลาที่ผลผลิตออดสู่ตลาดมากในเดือนมีนาคม และเมษายน 2565 นี้
ควรบริหารจัดการผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้ในแหล่งผลิตสำคัญของจังหวัดพิษณุโลก ที่จะจำหน่ายตลาดในประเทศ ให้มุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพผลผลิต ด้านการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว อาทิ กำหนดช่วงอายุการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่เหมาะสม (แก่จัด) รณรงค์และเฝ้าระวังเกษตรกรไม่ให้มีการเก็บเกี่ยวผลอ่อนมาบ่มจำหน่าย เพื่อให้มะม่วงน้ำดอกไม้พิษณุโลก ยังคงรสชาติหวาน หอม ไม่ติดเปรี้ยว รักษาคุณภาพและชื่อเสียงของมะม่วงน้ำดอกไม้จังหวัดพิษณุโลกให้ยั่งยืนต่อไป
มติที่ประชุม เห็นชอบตามข้อเสนอแนะของ สศท.2 โดยให้ฝ่ายเลขาฯ เร่งดำเนินการโดยอาศัยกลไกของคณะทำงานการประสานงานด้านการตลาดหรือหาแหล่งรับซื้อผลผลิต (Demand Side) จังหวัดพิษณุโลก บริหารจัดการสินค้าให้ทันต่อสถานการณ์ โดยให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 2 สำนักงานเกษตรจังหวัดพิษณุโลก สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก ประธานแปลงใหญ่มะม่วงน้ำดอกไม้ในแหล่งผลิตสำคัญของจังหวัด ผู้ประกอบการส่งออกมะม่วงน้ำดอกไม้ ภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องด้านการตลาด เข้าร่วมประชุมหารือด้วย
ภาพ/ข่าว : คณะทำงานประชาสัมพันธ์ สศท.2 พิษณุโลก
เพื่อให้คณะกรรมการฯ รับทราบสถานการณ์ผลิตสินค้ามะม่วงน้ำดอกไม้จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่มีเนื้อที่ให้ผลมากถึง 50,579 ไร่ และผลผลิตเริ่มออกกระจุกตัวแล้วในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2565 โดยออกมากที่สุดในเดือนมีนาคม 48,586 ตัน และรับทราบสถานการณ์ราคามะม่วงน้ำดอกไม้เกรดส่งออกเฉลี่ย 70 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10 บาท/กิโลกรัม ส่วนเกรดคละเฉลี่ย 30 บาท/กิโลกรัม ลดลงจากปีที่ผ่านมา 5 บาท/กิโลกรัม ซึ่งคาดว่าในช่วงผลผลิตออกกระจุกตัวราคาจะปรับลดลง ซึ่งอาจทำให้เกษตรกรเดือดร้อน
มติที่ประชุม มอบหมายให้คณะอนุกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร ระดับอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามราคาสถานการณ์ราคาะม่วงน้ำดอกไม้ที่เกษตรกรขายได้ เป็นประจำทุกวัน โดยรายงานให้ฝ่ายเลขาฯ ทราบ ภายในเวลา 12.00 น. ของทุกวัน เริ่มรายงานครั้งแรกในวันที่ 7 มีนาคม 2565
เพื่อพิจารณาแนวทางและมาตรการหรือรณรงค์ไม่ตัดมะม่วงน้ำดอกไม้อ่อน (สุกไม่ได้คุณภาพตามเกณฑ์) จากปัญหาที่เกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อส่งออกช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่ง สศท.2 พิษณุโลก ได้นำเสนอรายงานภาวะแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรปี 2565 จังหวัดพิษณุโลก ที่มีมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง เป็นสินค้าเกษตรสำคัญในการข้บเคลื่อนGPPภาคเกษตร และนำเสนอผลการศึกษาด้านเศรษฐกิจสินค้าทางเลือก(FutureCrop) กรณีศึกษามะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง พิษณุโลก ให้ที่ประชุมรับทราบพอสังเขปดังนี้
จากข้อมูลปี 2563 วิถีตลาดของมะม่วงน้ำดอกไม้ของจังหวัดพิษณุโลกประมาณร้อยละ 60 จำหน่ายให้กับบริษัทคู่ค้าที่นำผลผลิตส่งออกตลาดยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฯลฯ ซึ่งผู้ส่งออกจะเลือกผลผลิตที่ผิวสวย ไม่มีตำหนิ แต่ไม่รับซื้อผลผลิตที่แก่จัด หรือเกือบสุก เพราะผลผลิตจะสุกงอมเสียหายระหว่างการขนส่งก่อนถึงตลาดปลายทาง อีกทั้งผู้บริโภคแถบยุโรปไม่คุ้นชินในการบริโภคมะม่วงสุกที่รสชาติหวานจัดมากนัก ในขณะที่ผลผลิตที่เหลือร้อยละ 40 จะมีพ่อค้า หรือผู้รวบรวมผลผลิตเข้ามาร้บซื้อจากเกษตรกร และนำไปแบ่งจำหน่ายให้บริษัทคู่ค้าประมาณร้อยละ 10 ที่เหลืออีกร้อยละ 30 จะกระจายจำหน่ายตลาดในประเทศ ซึ่งผู้บริโภคชาวไทยนิยมมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่แก่จัด เมื่อสุก รสชาติต้องหอมและหวานจัด
ดังนั้น สศท.2 จึงเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาขับเคลื่อนการแก้ปัญหา ที่มุ่งเน้นบริหารจัดการคุณภาพและปริมาณผลผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาดแต่ละประเภทที่ต้องการผลผลิตแตกต่างกัน ดังนี้
ควรขับเคลื่อนบริหารจัดการด้านการตลาด โดยอาศัยกลไกของคณะทำงานการประสานงานด้านการตลาดหรือหาแหล่งรับซื้อผลผลิต (Demand Side)ระดับจังหวัด ที่จัดตั้งโดยคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ระดับจังหวัด (อพก.) เมื่อปี 2562 และขอให้ฝ่ายเลขานุการคณะทำงาน Demand Side ฯ เชิญผู้ประกอบการที่รับซื้อผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้เกรดส่งออก เข้าร่วมประชุม เพื่อชี้แจงให้คณะทำงานฯ รับทราบถึงคุณภาพ และปริมาณความต้องการมะม่วงน้ำดอกไม้ของตลาดส่งออกที่แท้จริง ในปี 2565 ทั้งนี้ เพื่อบริหารจัดการผลผลิตได้ตรงตามความต้องการตลาดในช่วงเวลาที่ผลผลิตออดสู่ตลาดมากในเดือนมีนาคม และเมษายน 2565 นี้
ควรบริหารจัดการผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้ในแหล่งผลิตสำคัญของจังหวัดพิษณุโลก ที่จะจำหน่ายตลาดในประเทศ ให้มุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพผลผลิต ด้านการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว อาทิ กำหนดช่วงอายุการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่เหมาะสม (แก่จัด) รณรงค์และเฝ้าระวังเกษตรกรไม่ให้มีการเก็บเกี่ยวผลอ่อนมาบ่มจำหน่าย เพื่อให้มะม่วงน้ำดอกไม้พิษณุโลก ยังคงรสชาติหวาน หอม ไม่ติดเปรี้ยว รักษาคุณภาพและชื่อเสียงของมะม่วงน้ำดอกไม้จังหวัดพิษณุโลกให้ยั่งยืนต่อไป
มติที่ประชุม เห็นชอบตามข้อเสนอแนะของ สศท.2 โดยให้ฝ่ายเลขาฯ เร่งดำเนินการโดยอาศัยกลไกของคณะทำงานการประสานงานด้านการตลาดหรือหาแหล่งรับซื้อผลผลิต (Demand Side) จังหวัดพิษณุโลก บริหารจัดการสินค้าให้ทันต่อสถานการณ์ โดยให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 2 สำนักงานเกษตรจังหวัดพิษณุโลก สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก ประธานแปลงใหญ่มะม่วงน้ำดอกไม้ในแหล่งผลิตสำคัญของจังหวัด ผู้ประกอบการส่งออกมะม่วงน้ำดอกไม้ ภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องด้านการตลาด เข้าร่วมประชุมหารือด้วย
ภาพ/ข่าว : คณะทำงานประชาสัมพันธ์ สศท.2 พิษณุโลก